พรมปูพื้น เป็นหนึ่งในไนอเทมที่หลายๆ บ้านจะต้องมีอย่างน้อย 1 ผืน เพราะนอกจากจะเอาไว้ใช้สอยแล้วยังเป็นของตกแต่งบ้านตามห้องต่าง ๆ เพื่อสร้างบรรยากาศให้อบอุ่น น่าอยู่อาศัย แถมเวลาเดินสัมผัสพรมยังรู้สึกนุ่มเท้าอีกด้วย แต่สิ่งที่น่ากังวลใจจนทำให้หลายๆ บ้านเลิกปูพรมก็คือฝุ่นและสิ่งสกปรกทั้งยังทำความสะอาดได้ยาก วันนี้เราจะมาบอกเทคนิคการทำความสะอาดพรมให้เหมือนใหม่กันเลย
1. เกลือช่วยกำจัดคราบอาหาร
โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กเล็ก มักจะมาการกินขนมหรืออาหารที่จะหกเลอะเทอะพรมได้ ซึ่งการขจัดคราบอาหารสามารถทำได้ง่ายๆ เพียงใช้เหลือโรยลงบนคราบดังกล่าว หลังจากทิ้งไว้สักครู่ก็ใช้ผ้าชุบน้ำสบู่อ่อน ๆ เช็ดออกได้เลย หากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการปูพรมในห้องรับประทานอาหารเพื่อหลีกเลี่ยงคราบหนักที่อาจเกิดขึ้นได้
2. ใช้เบกกิ้งโซดาทำความสะอาดคราบ
เบกกิ้งโซดาถือเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่จะควรมีติดบ้าน เพราะสามารถใช้งานได้หลากหลายมากๆ วิธีง่าย ๆ คือ หลังจากซับคราบน้ำหรือคราบสกปรกบนพรมออกไปให้ได้มากที่สุดแล้ว จากนั้นโรยเบกกิ้งโซดาลงบนคราบสกปรกดังกล่าวแล้วทิ้งไว้ 30 นาที แล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดส่วนที่เหลือก็เป็นที่เรียบร้อย
3. น้ำแข็งกำจัดคราบเหนียว
หมากฝรั่งและคราบเหนียวหรือเป็นอีกหนึ่งศัตรูของพรมเลยก็ว่าได้ เพราะทำความสะอาดได้ยากมากๆ เพราะนางจะเกาะติดหนึบเข้ากับพรม ซึ่งวิธีการง่ายๆ ก็คือใช้น้ำแข็งถูกไปที่หมากฝรั่งหรือคราวเหนียวนั้นเพื่อให้แข็งตัวและจะสามารถหลุดออกมาได้ง่ายมากๆ
4. ดูดฝุ่นพรมเป็นประจำ
พรมส่วนใหญ่ผลิตจากวัสดุที่กักเก็บฝุ่น สิ่งสกปรกและสารก่อภูมิแพ้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้และโรคอื่น ๆ ที่เป็นอันตรายต่อคนในบ้านได้ จึงควรดูดฝุ่นพรมเป็นประจำทุกวันหรือสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง หรือเลือกใช้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นซึ่งทำงานโดยอัตโนมัติก็เป็น วิธีทำความสะอาดพรม ขั้นแรกที่ช่วยกำจัดสิ่งสกปรก และยังช่วยยับยั้งกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วย
5. ส่งร้านบริการซักพรม
เดี๋ยวนี้มีบริการซักพรมที่จะมาช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับคุณเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยมีเวลาจะทำความสะอาดพรม หรือเป็นคราบฝังลึก หรือฝุ่นหนาๆ อย่าง Coit เป็นร้านที่ให้บริการซักพรมมาตรฐานระดับสากล ที่มีวิธีการซักทำความสะอาดพรม ด้วยเทคโนโลยี พร้อมเครื่องมือที่ทันสมัย และน้ำยาที่เหมาะสมกับพื้นผิวพรมของคุณอย่างละเอียดอ่อนล้ำลึกไปจนถึงเส้นใยพรม ให้กลับมามีสภาพเหมือนใหม่อีกครั้งโดยไม่ต้องกลัวว่าพรมจะเสียหายเลย เพียงแค่ส่งซักแล้วรอเท่านี้ก็เหมือนได้พรมใหม่แล้ว